ฆาตกรรม.....อำพราง
เมื่อหญิงสาวได้ลงมือฆ่าคนแล้ว เธอจะทำยังไงดี
ผู้เข้าชมรวม
1,187
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สาวิตรีแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองที่อยู่เบื้องหน้า
ที่มุมห้อง 'สมชาย' สามีของเธอนอนจมกองเลือดอยู่ ร่างกายของเขาถูกคมมีดเสียบคาไว้ที่ท้อง เธอถอยหลังอย่างหวาดระแวงกลับไปที่ห้องน้ำ แล้วก็ต้องสะดุดขาของใครบางคนจนตัวเธอล้มลงไปอยู่ที่พื้นห้องน้ำ ฌะอเงยหน้ามองดู มันเป็นร่างหญิงสาวที่เธอคุ้นเคย 'เดือน' เลขาสาวของสมชายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ตอนนี้มีเพียงร่างไร้วิญญาณ เธอถอยหนีไปจนสุดมุมของห้องน้ำด้วยร่างที่สั่นเทาและหวาดกลัว
เธอแทบไม่อยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น.....ว่ามันได้เกิจากน้ำมือของเธอเอง
ตรีกลับถึงบ้านในตอนเช้าหลังการสัมมนาที่ต่างจังหวัดเสร็จสิ้นเร็วกว่าที่กำหนดและเธอเองก็ต้องแปลกใจที่สุดเมื่อเธอเปิดประตูห้องนอนออกแล้วได้พบภาพที่บาดตาบาดใจ สามีของเธอแอบมีอะไรกันกับเลขาฯ ส่วนตัวของเขาบนเตียงนอนที่เธอกับเขาเคยนอนด้วยกัน ตรีโมโหสุดขีดเธอมีปากเสียงกับสมชายอย่างรุนแรง แต่แทนที่สมชายจะขอโทษหรือยอมรับผิด เขากลับด่าทอและโทษว่าเป็นเพราะเธอไม่มีเวลาให้กับเขา
สาวิตรีแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือผู้ชายที่เธอรักและไว้ใจอย่างที่สุด เธอเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบมีดพกออกมา มีดที่เธอซ่อนไว้เพื่อใช้ป้องกันตัวในยามคับขัน ซึ่งตอนนี้มันได้กลายเป็นอาวุธเพราะแรงหึงหวงของเธอ เธอเอามีดไล่แทงสมชายด้วยโมโหร้าย เธอหวังจะปลิดชีวิตผู้ชายที่ทำลายความไว้ใจของเธอเสียด้วยมีดของเธอเอง สมชายใช้มือปัดป้องหลบมีดไปพร้อม ๆ กับร้องห้ามเธอ และพูดกล่าวแก้ตัวกับความผิดที่ได้ทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ แต่ดูเหมือนคำแก้ตัวของเขาจะยิ่งเป็นแรงยุ เธอกลับรู้สึกโกรธและเกลียดเขากับเลขาฯ มากขึ้น สาวแอบอยู่เบื้องหลังที่เธอได้เห็นยิ่งทำให้ความแค้นทวีคูณ เธอถือมีดวิ่งเข้าไปอย่างมั่นคงแล้วคมมีดนั้นก็ไม่คลาดเป้า มันเสียบเข้าไปในเนื้อของสมชายก่อนที่เลือดจะไหลพ่งออกมา เธอตกใจกับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป
แต่เสียงกรีดร้องของแสงเดือนที่ดังขึ้น ก็ทำให้สัญชาตญาณในการทำลายล้างของเธอปลุกขึ้นมาอีกครั้ง แสงเดือนวิ่งหนีหวังจะเอาชีวิตรอด เธอวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำแล้วพยายามจะลงกลอนปิดกั้นอันตรายไว้เบื้องนอก แต่ไม่ทันเพราะตรีคว้าประตูไว้ เธอดึงประตูออกอย่างง่ายดายด้วยความแค้น เธอเดินเข้าไปประชิดตัวของเดือนก่อนที่จะผลักร่างของเลขาฯ สาวพยายามอ้อนวอนขอชีวิตแต่มันไม่เป็นผล เมื่อตรีจับเอาหัวของเดือนกดน้ำจนขาดอากาศหายใจไปในที่สุด
ตรีมองดูเลือดที่เปื้อนตามมือและร่างกายอันสั่นเทาของเธออย่างหวาดกลัว และรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไปในเวลาที่สายไปเสียแล้ว เธอคิดอย่างผิดหวังและทุกข์ใจ แต่เธอก็ไม่อาจจะยอมรับกรรมอันเป็นความผิดครั้งนี้ได้
มันไม่ใช่ความผิดของฉัน.....ฉันขอโทษคุณด้วยนะสมชาย คุณไม่น่าจะทำกับฉันอย่างนี้เลย พวกคุณ.....พวกคุณเป็นคนบีบให้ฉันต้องทำ ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ผิด ฉันเสียใจ เธอคร่ำครวญจนหมดสติไปพักใหญ่และตื่นขึ้นมาในช่วงเที่ยง
เมื่อเธอได้สติแล้วเธอก็รีบไปค้นหาถุงดำมาใส่ร่างที่ไร้วิญญาณของคนทั้งสอง แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของสามี ความรัก ความแค้น ความเสียใจก็กลับมาอีกครั้ง เธอร้องห่มร้องไห้วิงวินขอโทษสมชายอยู่นานกว่าจะได้สติอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงบรรจุศพของสามีลงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก่อนจะรูดซิปปิดตายลงไปเหมือนกับที่เธออยากให้ความลับนี้ถูกปิดตายไว้แค่ในกระเป๋าใบนี้ ตรีจัดการกับร่างที่ไร้วิญญาณของแสงเดือนเช่นกัน ก่อนที่เธอจะเก็บกวาดหลักฐานต่าง ๆ ออกไปหมดสิ้น ให้เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในนี้.....จนตกเย็นทุกอย่างก็สะอาดเรียบร้อย เว้นแต่ใจเธอ
ตรีอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ได้นำกระเป๋าเดินทางใส่ไว้ใต้กระโปรงรถใบหนึ่ง และวางไว้บนเบาะฟลังแกใบหนึ่ง พร้อมนำผ้าสีดำคลุมไว้ เธอขับรถออกจากบ้านออกไปอย่างปกติ จุดหมายก็คือหน้าผาริมน่านน้ำ เธอขับรถอย่างเชื่องช้าและเริ่มใจดีขึ้นเพราะทุกอย่างดูจะเป็นปกติ แต่แล้วความรู้สึกแย่ ๆ ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นแสงไฟให้หยุดรถจากด่านตรวจข้างหน้า
เธออยากจะถอยรถหนีกลับไป แต่ก็ทำไม่ได้เพราะด่านตรวจอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ถ้าเธอถอยรถกลับไปยิ่งจะทำให้เป็นที่น่าสงสัยแล้วสุดท้ายก็จะจบกัน เธอพยายามรวบรวมความกล้าที่ไม่ค่อยมีอยู่สักเท่าไรในการขับรถไปยังจุดตรวจ
"สวัสดีครับคุณผู้หญิง ต้องรบกวนขอความร่วมมือด้วยนะครับ" เสียงกล่าวของตำรวจนายหนึ่งดังขึ้น
"ได้ค่ะ มีอะไรกันเหรอคะ " ตรีกล่าวรับอย่างไม่เต็มเสียง
"คือเราต้องขอทำการตรวจค้น เนื่องจากมีผู้ร้ายหลบหนีมาตามเส้นทางนี้ครับ แต่เอ๊ะ ! คุณผู้หญิงไม่สบายรึเปล่าครับเห็นหน้าตาซีดเหงื่อออกเยอะเชียว " ตำรวจนายนั้นถามอย่างสงสัย
"เอ่อ.....ดิฉันไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ " เธอกล่าวแก้ตัว
"คุณจะไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าครับ เห็นมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เชียว"
"ค่ะ ดิฉันจะไปเที่ยวทะเลแถวนี้สักหน่อยน่ะค่ะ"
"รบกวนช่วยเปิดให้ค้นได้มั้ยครับ"
"แค่ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้หญิงน่ะค่ะ " เธอบ่ายเบี่ยง
แต่ยังไงทางเราก็ต้องตรวจค้นนะครับ ตำรวจนายนั้นกล่าวย้ำ
"เอ่อ....." เจนจิราพยายามคิดหาทางบ่ายเบี่ยง ขณะเดียวกันก็มีเสียงวอเรียกของตำรวจดังขึ้น
"วอหนึ่งเรียกวอสอง ทางเราดักจับรถผู้ต้องสงสัยได้ที่เส้นทางถนนเลียบทะเลกิโลเมตรที่สิบ ผู้ต้องสงสัยกระทำการหลบหนีไปทางเราจึงวอนมาขอกำลังเสริม ทราบแล้วเปลี่ยน"
"ทราบแล้ว ทางเราจะส่งกำลังเสริมไปในทันที เปลี่ยน" เสียงวอตอบกลับนั้น ทำให้สาวิตรีใจชื้นขึ้น เพราะตำรวจที่กำลังจะทำการตรวจค้นรถของเธออยู่นั้นกลับรีบวิ่งขึ้นรถตำรวจแล้วบึ่งรถออกไปในทันที
สาวิตรีขับรถต่อไป ในใจก็เฝ้าภาวนาไม่ให้มีใครมาสงสัยหรือมายุ่งกับเธออีก เธอเปิดวิทยุฟังเพลงเพื่อความผ่อนคลาย
"สวัสดีค่ะ มาพบกับการรายงานข่าวในต้นชั่วโมงนะคะ จากกรณีที่มีผู้พบศพถูกฆาตกรรมอำพรางในหลายพื้นที่ในรอบเดือนที่ผ่านมากว่าสิบกว่าศพนั้น ล่าสุดทางตำรวจได้ออกมายืนยันว่าเป็นฝีมือของฆาตรกรคนเดียวกัน ซึ่งน่าเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการผิดปกติทางสมอง ชอบความรุนแรง....." สาวิตรีได้ฟังดังนั้นก็เกิดอาการหวาดผวาขึ้นมาอีกครั้ง เธอนึกภาพใบหน้าของสมชายที่ตามมาหลอกหลอนเธอ เธอไม่อยากตกเป็นข่าวเช่นเดียวกันนั้น เธอหวาดกลัว เธอจะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไปจนวันตาย การอำพรางของเธอจะต้องเป็นไปอย่างเรียบร้อย สาวิตรีนึกในใจขณะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา
สาวิตรีขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บนเส้นทางที่แสนจะเปลี่ยวมืด จะจวนถึงหน้าผาริมทะเลจุดที่เธอจะละทื้งความผิดทั้งหมดที่เธอได้กระทำขึ้นเพราะอารมณ์ชั่ววูบขณะหนึ่งที่เธอไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้วอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง ตรีเหยียบเบรกเต็มแรงเมื่อเห็นคนวิ่งตัดหน้ารถ แต่ดูเหมือนว่าจะสายไปแล้ว ร่างของชายคนนั้นล้มลง ตรีตกอยู่ในอาการตัวสั่นขวัญผวาอีกครั้ง
"มันเป็นวันอะไรของฉันเนี่ย ขอให้เขาอย่าเป็นอะไรไปนะ มันจะไม่มีศพที่สามจากฉันอีก เขาไม่เป็นอะไร เขายังมีชีวิตอยู่" ตรีรำพึงกับตัวเองให้รู้สึกคลายความกังวลกับเหตุที่เกิดขึ้น ในขณะที่เดินลงไปดูอาการของชายคนนั้น
ชายคนนั้นนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นถนน ตรีสังเกตเห็นรอยเลือดจากชายคนนั้น เลือดที่ไหลออกมาจากแผลที่ศีรษะที่ถูกกระทบกับพื้นถนน เธอหยุดชะงักก่อนจะเดินถึงร่างของชายคนนั้น เมื่อสังเกตเห็นว่าในมือของเขากำมีดอยู่ ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง แผลที่ศีรษะของเขายังมีเลือดไหลออกมา สียงของวิทยุที่เปิดไว้ยังคงรายงานข่าวฆาตกรรมอย่างต่อเนื่อง
"รูปพรรณของคนร้ายตามที่ได้รับรายงานมานะคะ คนร้ายใส่เสื้อคอกลมสีเทา สวากางเกงยีนส์ มีรอยสักลายมังกรตามท่อนแขนทั้งสองข้าง และที่น่าสังเกตคือคนร้ายจะทาเล็บสีดำทั้งสิบนิ้ว ผมสั้นเกรียน ใบหน้าจะดูโหดร้ายแต่มีแววตาที่เหม่อลอยเหมือนคนขาดสติ....."
รายงานข่าวที่สาวิตรีได้รับทราบยิ่งทวีความหวาดกลัวมากขึ้น เพราะมันดูคล้ายกันกับชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอเหลือเกิน สาวิตรีถอยร่นกลับไปที่รถของเธอ แต่เพราะความกลัวและร่างกายที่อ่อนล้ามาทั้งวันเธอจึงสะดุดล้มลง
ชายคนนั้นก้าวตามมาอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ตรีกรีดเสียงร้องขอความช่วยเหลือและพยายามลุกขึ้นตะเกียกตะกายพาร่างของเธอหนีชายคนนั้นไป แต่ชายคนนั้นตามมาทัน เขาคว้าจับแขนของเธอไว้แน่น ตรีมองกลับมาและสบสายตาของเขาสายตาที่เลื่อนลอยแต่น่าหวาดกลัว เขาแสยะยิ้ม เธอพยายามสะบัดข้อมือหนีและร้องขอชีวิตแต่แล้วก็รู้สึกชา ๆ ก่อนจะเจ็บปวดอย่างที่สุดบริเวณซี่โครงด้านขวา
คมมีดของชายโรคจิตคนนั้นเสียบทิ่มไปจนมิดด้ามที่ร่างของสาวิตรี เธอกรีดเสียงร้อง เขากระหนำแทงเธออย่างคลุ้มคลั่งอีกหลายแผลจนสิ้นเสียงร้องของเธอ ตรีนึกเห็นใบหน้าและเสียงร้องขอชีวิตของสมชายและแสงเดือน เธอเองยังห่วงและเป็นกังวลว่าความผิดที่เธอพยายามจะอำพรางนั้นมันจะถูกเปิดเผยออกมา เธอไม่อยากจะได้ชื่อว่าเป็นฆาตรกรแม้จะต้องตายไป สาวิตรีหลับตาลงอย่างเป็นห่วงและอาวรณ์ แล้วเธอก็หมดลมหายใจลงไป
ชายโรคจิตลากร่างที่ไร้วิญญาณของสาวิตรีไปซุกไว้ในกระโปรงรถที่ยังพอมีพื้นที่ว่างจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบนั้นอยู่ ชายคนนั้นขับรถออกไปอย่างเป็นปกติ เขามุ่งหน้าไปที่จุดหมายเดียวกันกับที่ตรีตั้งใจไว้ในตอนแรกที่หน้าผาริมทะเลนั้น เขาหยุดรถก่อนที่จะค่อย ๆ ลากศพของตรีออกมาจากที่ซ่อน หมายจะอำพรางคดีการฆาตกรรมนี้ด้วยการทิ้งศพของเธอให้จมลงไปฝต้ก้นบึ้งของทะเลตามแผนการเดิมของเธอ เขาโยนร่างของเธอลงไป ตรีร่วงลงจมดิ่งไปในความมืดมนของทะเลในยามค่ำคืนพร้อมกับความลับที่ถูกอำพรางไว้ แล้วชายคนนั้นก็ขับรถออกไปอย่างเย็นชา
"รายงานข่าววันนี้นะคะ เริ่มจากคดีที่ชายโรคจิตออกอาละวาดฆาตกรรมอำพรางศพนับศิพที่ได้รายงานไปเมื่อวันก่อน กลางดึกคืนวานนี้ทางตำรวจก็สามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้แล้วในขณะตั้งด่านสกัดบริเวณถนนเลียบทะเลกิโลเมตรที่สิบ โดยจับผู้ต้องหาได้พร้อมกับรถเก๋งที่ภายในได้ซ่อนศพชายหญิงคู่หนึ่งไว้ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ โดยทางตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่คนร้ายได้ทำการฆาตกรรมและกำลังจะนำศพไปอำพรางคดีแต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านสกัดจับไว้ได้เสียก่อน โดยในเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงมีอาการเหม่อลอยและปฏิเสธการกระทำในครั้งนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อแน่ว่าจากหลักฐานและพยานแวดล้อมดังกล่าวจะสามารถมัดตัวคนร้ายได้ในที่สุดค่ะ"
การฆาตกรรมอำพรางของสาวิตรีในครั้งนี้ ยังจะคงถูกอำพรางไปชั่ว
นิรันดร์
P.S. อันนี้เป็นเรื่องแรกยังไงก็ต้องขอโทษด้วนะคะถ้ามีข้อผิดพลาดยังไง และช่วยชี้แนะด้วนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ La poire ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ La poire
ความคิดเห็น